“ศักดิ์สยาม” เร่งแก้ปัญหาหน้าด่านใช้เทคโนโลยี AI พัฒนาโปรแกรม
“ศักดิ์สยาม” รับฟังบรรยายการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่จัดเก็บเงินหน้าด่าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง และใช้เทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ AI พัฒนาโปรแกรม เชื่อมต่อข้อมูลเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับฟังบรรยายการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง กรมทางหลวง พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสมัย โชติสกุล นายพิศักดิ์ จิตวิตวิริยะวศิน และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการและรองโฆษกกระทรวงคมนาคม และนายศราวุธ ทรงวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมรับฟัง โดยมี นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงให้การต้อนรับ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2562 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมทางหลวงได้รายงานการดำเนินการตามนโยบาย ประกอบด้วย
1.การเพิ่มเจ้าหน้าที่จัดเก็บเงินหน้าด่าน จำนวน 10 คน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ซึ่งกรมทางหลวงได้เลือกด่านทับช้าง 1 และด่านทับช้าง 2 มาทดสอบ โดยได้มีการทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่จัดเก็บ การตรวจค้น แจกอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย กำหนดตำแหน่งยืนภาคสนาม และทำการประชาสัมพันธ์ผ่านแผ่นป้าย VMS และประกาศหน้าด่าน ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สรุปผลการทดสอบในภาพรวม โดย กรมทางหลวงต้องปรับปรุงโปรแกรม (software) ของระบบจัดเก็บให้รองรับกระบวนการทำงานของการปล่อยเป็นขบวนร่วมกับการทำงานแบบปกติ และระบบรายงานปริมาณการจราจรและรายได้ พร้อมหาแนวทางการป้องกันรถฝ่าด่าน พร้อมรองรับการแจ้งความที่น่าจะมีผู้ละเมิดมากขึ้น นอกจากนี้ ต้องจัดเตรียมพนักงาน 14 คนต่อตู้ (1 คนจัดเก็บในตู้ 1 คนหยุดรถหลังตู้ 1 คนหยุดรถหน้าตู้ 10 คนจัดเก็บ 1 คนระวังหัวขบวนและจัดการจราจร) และเตรียมทีมรับ-ส่งเงินทอนจากหน้าด่านไปให้พนักงานหน้าตู้เก็บเงิน
2.นโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางอัตโนมัติ ETC โดยการยกไม้กั้น ซึ่งกรมทางหลวงได้ทดลองติดตั้งกล้องดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่องทาง (DVES) เพิ่มเติม และกล้องอ่านทะเบียน (LPR) ซึ่งกรมทางหลวงได้สรุปผลจากการทดสอบ โดยต้องจัดทำระบบมีการบูรณาการข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก และบังคับใช้กฎหมายร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิดกฏหมาย
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการในการแก้ปัญหาการจราจรหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง ดังนี้
1.ระยะเร่งด่วน ได้มอบให้ กรมทางหลวง ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบการแก้ไขปัญหาในห้องปฏิบัติการ 1 สัปดาห์ก่อนลงพื้นที่ทดลองปฏิบัติในพื้นที่จริง 1 สัปดาห์ จากนั้นนำข้อมูลมาประมวลผล และรายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงคมนาคม
2.ระยะยาว ให้ใช้เทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้และพัฒนาโปรแกรม เชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ซึ่งโปรแกรมจะสามารถ Check in / check out และคำนวณค่าผ่านทางได้ทันที ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี