บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI ก้าวสู่ 50 ปี รุกรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่สร้างการจดจำภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย วางแผนจัดกิจกรรมใหญ่ในงาน Bangkok International Motor Show 2020 ปีหน้า ชูนโยบายปรับองค์กรสู่ยุคดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ พร้อมขยายธุรกิจจัดงานมอเตอร์โชว์ในต่างประเทศ
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปีในเดือนตุลาคมปีหน้า ได้วางนโยบายรีแบรนดิ้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์กรังด์ปรีซ์ฯ ให้เป็นที่จดจำและมีความทันสมัยยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
บริษัทวางแผนจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองใหญ่ในโอกาสที่กรังด์ปรีซ์ฯ ดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปีในงาน Bangkok International Motor Show 2020 ในปีหน้า ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งนับเป็นการจัดงานครั้งที่ 41 เพื่อย้อนอดีตและภาพความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต
“จุดกำเนิดของกรังด์ปรีซ์ฯ เริ่มต้นทำธุรกิจเมื่อปี 2513 จากการทำนิตยสาร และขยายธุรกิจต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมแข่งรถ ธุรกิจโรงพิมพ์ จัดงานมอเตอร์โชว์เป็นงานแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2522 ที่ลุมพินีสถาน (สวนลุมพินี) ขยายธุรกิจจัดงานมหกรรมรถมือสอง Used Car Show ครั้งแรกในปี 2552 ก่อนนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2560 และต้นปีนี้ได้ขยายธุรกิจในต่างประเทศโดยจัดงานมอเตอร์โชว์ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาเป็นครั้งแรก” ดร.ปราจิน กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ได้วางนโยบายปรับองค์กรสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะสร้างการเติบโตแก่บริษัทฯ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์พัฒนาแอพพลิเคชั่น Car Buddy By GPI เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมาใช้ลงทะเบียนและตอบแบบสอบถาม นอกจากนี้จะร่วมมือกันพัฒนาฟังก์ชั่นให้บริการอื่นๆ ในแอพพลิเคชั่นดังกล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทได้เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่จัดการแข่งขัน ‘อีสปอร์ต’ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมในปีที่ผ่านมาสูงถึงประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเรือธงที่จะสร้างรายได้จากการหาสปอนเซอร์สนับสนุนการแข่งขัน โดยปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้จัดงาน GP eRacing เพื่อแข่งขันเกมส์แข่งรถ Grand Tourism Sport (GT Sport) ซึ่งเป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัท Polyphony Digital ผู้ผลิตเกม Gran Turismo Sport พร้อมทั้งได้รับการรับรองจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ จากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ปัจจุบันได้จัดแข่งขันใหญ่แล้ว 2 ครั้ง ในงาน Bangkok International Motor Show 2019 ที่ผ่านมา และที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนการแข่งขันครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ 18-20 ตุลาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะจัดแข่งชิงแชมป์ในช่วงปลายปีนี้วันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว พร้อมทั้งมีแผนขยายธุรกิจจัดการแข่งขันอีสปอร์ตกับเกมส์ออนไลน์อื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยม
ส่วนการขยายธุรกิจต่างประเทศ บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจจัดงานมอเตอร์โชว์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รุกจัดงาน Yangon International Motor Show เป็นครั้งแรกที่ประเทศเมียนมาในช่วงต้นปีนี้ และมีแผนจัดงานครั้งที่ 2 ในช่วงต้นปีหน้า ขณะนี้บริษัทฯ มีแผนงานขยายธุรกิจจัดงานมอเตอร์โชว์ในประเทศกัมพูชาอีกครั้ง หลังจากเคยเข้าไปศึกษาตลาดและโอกาสการทำธุรกิจเมื่อหลายปีก่อน โดยพบว่าภาพรวมเศรษฐกิจกัมพูชาในปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในกัมพูชาและธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์
