“ตราเพชร”พร้อมรับฤดูการขายวัสดุก่อสร้างรอบใหม่
“บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT” ประกาศพร้อมรับฤดูการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างช่วงปลายปี หลังใช้จังหวะช่วงไตรมาส 3 เร่งผลิตสินค้าเพิ่มปริมาณสต๊อกขึ้นมาอยู่ในระดับปกติเฉลี่ยประมาณ 30 วัน ชูความพร้อมด้านทีมช่างติดตั้งพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าโครงการได้ 500 ยูนิตต่อเดือน ด้านผู้บริหารประเมินภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังเริ่มเห็นสัญญาณความต้องการใช้สินค้าเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสูงขึ้น พร้อมตั้งเป้ารักษาการเติบโตที่ดีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการทำการตลาดภายใต้แนวคิด สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง ที่ทำให้แบรนด์ ตราเพชร มีความแข็งแกร่งและเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทฯ วางแผนเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าคงคลังให้เพียงพอต่อการขายมากขึ้น หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกมีปริมาณสต๊อกสินค้าวัสดุก่อสร้างหลายรายการปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ บริษัทได้ใช้โอกาสในช่วงไตรมาส 3/62 ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นหรือนอกฤดูการขายสินค้าตลาดวัสดุก่อสร้าง ในการเร่งผลิตสินค้าและเพิ่มสินค้าคงคลัง เพื่อเตรียมพร้อมกับฤดูการขายสินค้ารอบใหม่ที่จะมาถึงในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2563 หลังจากประเมินว่าตลาดวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากสัญญาณความต้องการใช้สินค้าเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้อยู่ในสภาพที่ดี ตลอดจนอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งล่าสุด
ปัจจุบันสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคาและกลุ่มไม้สังเคราะห์ ถือว่ามีความพร้อมด้านการขายและให้บริการ เนื่องจากมีปริมาณสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับปกติเฉลี่ยประมาณ 30 วัน จากเดิมในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ที่มีสต๊อกสินค้าพร้อมขายเฉลี่ยไม่เกิน 20 วัน ขณะเดียวกัน DRT ยังมีความพร้อมด้านการให้บริการโดยมีทีมช่างติดตั้งมืออาชีพที่พร้อมรับงานติดตั้งให้แก่ลูกค้าโครงการได้ประมาณ 500 ยูนิตต่อเดือน
“หลังจากเราได้เร่งผลิตสินค้าเพื่อเก็บสต๊อกมากขึ้น ถือว่าขณะนี้ DRT มีความพร้อมด้านการขายและให้บริการเพื่อเตรียมรับคำสั่งสินค้าในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ที่คาดว่าจะมีความต้องการสินค้าในกลุ่มตลาดซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ และช่องทางโมเดิร์นเทรดหรือห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ที่ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการและขยายสาขาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อภาพรวมความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างมากขึ้น” นายสาธิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า แผนการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ DRT ตั้งเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกับช่วงที่ผ่านมา โดยการบริหารสัดส่วนการขายสินค้าแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ (Product Mix) อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาขีดความสามารถการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 25 – 27% และผลักดันเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5%