“น้าสน”รับไม้ต่อจาก “ดร.สมคิด” สั่งกฟผ. ศึกษาค่าไฟฟ้าเพื่อคนจนและธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน พร้อมกับให้ กฟผ.และธกส. ร่วมกันผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชน หวังยกระดับสร้างรายได้ชุมชน และสร้างแบรนด์สินค้าให้กับชุมชนด้วย
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไทย (กฟผ.) ว่า กฟผ.เป็นองค์กรที่เข้มแข็งมีผลประกอบการที่ดีมีความมั่นคงสูงมาก เมื่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านเกิดขึ้น จึงขอให้ กฟผ.ตรึงราคาค่าไฟไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชน และขอให้ประชาชนอุ่นใจได้ว่า พลังงานมีเพียงพอกับความต้องการ โดยนายสนธิรัตน์ สนจิริวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ กฟผ. ไปศึกษาดูช่องทางให้ความช่วยเหลือด้านค่าไฟกับผู้ที่มีรายได้น้อยด้วย ซึ่งจะมาหารือร่วมกันอีกครั้ง
ดร.สมคิด กล่าวด้วยว่า ได้มอบหมายให้ กฟผ. และธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในแต่ละพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านทำธุรกิจกับชุมชน ซึ่ง กฟผ.จะสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนสิ่งเหล่านี้จะยกระดับสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้มหาศาลเลยทีเดียว
“กฟผ.มีฐานะการเงินแข็งแกร่งเพียงพอที่จะร่วมประชาชนในท้องถิ่น เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนและรับซื้อไฟฟ้า ที่จะนำไปสู่เรื่องอื่นๆ ตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ กฟผ. ทำได้ดีมากกว่าคนอื่นในการร่วมกับชาวบ้าน”
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด ได้มอบหมายให้ กฟผ. ในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้าจะเข้าไปร่วมผลักดันโรงไฟฟ้าชุมน ทั้งในด้านการนำเทคโนโลยี การมีส่วนร่วมในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนด้วย เช่น การเข้าไปเพิ่มผลผลิตของชุมชน การเข้าไปสร้างแบรนด์สินค้าให้กับชุมชนให้แข็งแรง เป็นต้น
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้มอบนโยบายให้ กฟผ. ไปศึกษาการคิดค่าไฟฟ้าไม่เป็นราคาเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อแยกอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อเป็นการเข้าไปช่วยเหลือแบ่งเบาภาระประชานคนมี่มีรายได้น้อย ซึ่งจะได้นำเรื่องนี้ไปดำเนินการควบคู่กับความเป็นธรรมและค่าต้นทุนของไฟฟ้าต่อไป
