คปภ. ถกภาคธุรกิจประกันภัยคลอดกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโคโรนา
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 Coronavirus (2019-nCoV) ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นั้น สำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกำหนดมาตรการรองรับสถานการณ์ดังกล่าวโดยได้ออกมาตรการในการดูแลช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 Coronavirus (2019-nCoV) ไปแล้วจำนวน 4 มาตรการ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 นั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เลขาธิการ คปภ. พร้อมคณะผู้บริหารของ สำนักงาน คปภ. ได้จัดประชุมหารือกับภาคธุรกิจประกันภัย เพื่อใช้ศักยภาพด้านประกันภัยช่วยเหลือประชาชนเพื่อรับมือกับไวรัสโคโรนา โดยได้ข้อสรุปร่วมกันใน 4 ประเด็น คือ
1. เห็นชอบหลักการในการสนับสนุนการจัดทำผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองการเจ็บป่วยจากไวรัสโคโรนาโดยเฉพาะ เพื่อกระตุ้นการใช้ระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยงในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นแก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้มีบริษัทประกันภัยหลายรายกำหนดให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม หากผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยจากไวรัสโคโรนา ซึ่งเลขาธิการ คปภ. ได้มอบนโยบายให้ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่จะอนุมัติผลิตภัณฑ์ประกันภัยในลักษณะดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากการประกันภัยได้อย่างทันท่วงที ทันเหตุการณ์ รวมทั้งสนับสนุนนโยบายต่างๆ ที่ระบบประกันภัยจะสามารถเข้าไปรองรับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานี้ด้วย
2. สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย จากอัตราที่ลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงประสานงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอให้มีการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชาวต่างชาติ ซึ่งเกิดการเจ็บป่วยจากโรคไวรัสโคโรนาขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยจนทำให้ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลหรือเสียชีวิต เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีสภาวะที่ดียิ่งขึ้น
3. ส่งเสริมความเข็มแข็งของธุรกิจประกันภัย และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัย โดยเห็นชอบร่วมกันให้ภาคธุรกิจประกันภัยดำเนินการจัดทำ stress test เพื่อทดสอบปัจจัยมหภาค การเคลมจากการเสียชีวิต และ การเจ็บป่วย ของลูกค้าบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย
4. สื่อสารสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ธุรกิจประกันภัยมีความสามารถในการรับผิดชอบชดใช้สินไหมทดแทนได้ตามสัญญาประกันภัยได้อย่างแน่นอน
สำหรับในรายละเอียดของการดำเนินการข้างต้นสำนักงาน คปภ. จะบูรณาการร่วมกับคณะทำงานของสมาคมประกันวินาศภัย และสมาคมประกันชีวิตโดยจะเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
“หากทุกฟันเฟืองในภาคอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยร่วมแรงร่วมใจกัน แม้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง เราก็สามารถใช้ระบบประกันภัยช่วยกอบกู้ความสูญเสียให้กลับคืนมาสู่สภาวะปกติได้ ดังเช่นเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ในครั้งนี้ก็เช่นกันแม้จะมีสถานการณ์ที่น่าห่วงใยเรื่องการระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เราต้องผนึกกำลังกันให้ก้าวผ่านพ้นไปให้ได้และพิสูจน์ให้เห็นว่าระบบประกันภัยสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย