“ยูโอบี”เปิดตัวยู-โซลาร์ หนุนระบบนิเวศอุตฯพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในภาคธุรกิจ-ครัวเรือน
ธนาคารยูโอบี (ไทย) เปิดตัวโครงการยู-โซลาร์ (U-Solar) แพลตฟอร์มที่สนับสนุนระบบนิเวศของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจรแห่งแรกของเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย ภายใต้โครงการนี้ ธนาคารยูโอบีจะเป็นเสมือนตัวกลางที่เข้าไปเชื่อมต่อทุกภาคส่วน ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และช่วยในการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากพลังงานสะอาด โดยโครงการนี้ได้เปิดตัวไปแล้วในอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์
โดย ธนาคารยูโอบี นำเสนอโซลูชันทางการเงินแก่ผู้พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ได้แก่ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการพัฒนาโครงการ และสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ ตลอดจนการบริหารเงินสด ส่วนผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) ธนาคารนำเสนอโซลูชันด้านการจัดการทางการเงินที่ครอบคลุมในทุกเรื่อง ตั้งแต่ หนังสือค้ำประกันการยื่นซองประมูลราคา เอกสารยืนยันการชำระเงิน หนังสือค้ำประกันการปฏิบัติงานตามสัญญา และเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แก่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม องค์กรธุรกิจ และบ้านเรือน ที่กำลังมองหาโซลูชันเพื่อการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โครงการยู-โซลาร์ ครอบคลุม โซลูชันแบบครบวงจรในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การจัดหาผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นพันธมิตรของธนาคารยูโอบีในตลาดอื่นๆ ทั่วภูมิภาค โซลูชันทางการเงินสำหรับองค์กรธุรกิจหรือผู้ใช้ทั่วไป ในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการบำรุงรักษา เป็นต้น
ในงานเปิดตัวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เกียรติร่วมงาน
รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากปี 2562 ที่มีสัดส่วน 10% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เพิ่มเป็น 37% หรือ 20,755 เมกะวัตต์ ภายในปี 2580 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อาทิ มาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ feed-in tariff และรูปแบบ feed-in premium
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้ออกนโยบายโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ เพื่อส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และโรงไฟฟ้าประเภท ไฮบริด ระหว่างชีวมวล ก๊าซชีวภาพ กับพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม สอดคล้องตามนโยบายพลังงานเพื่อทุกคน “Energy for All” ของกระทรวงพลังงาน ที่มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยได้เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนมากขึ้น ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาชุมชนอีกด้วย”
ด้านนายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า “ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตในภาคพลังงานหมุนเวียนนี้ เราเชื่อว่าโครงการยู-โซลาร์ จะสามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคธุรกิจและภาคประชาชน และเชื่อว่าจะสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตสีเขียวให้กับประเทศไทย”
ทั้งนี้ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ได้ร่วมกับ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพันธมิตรผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ และ เค.จี.โซล่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในเรื่องการติดตั้งระบบ การจัดหาผู้รับเหมา และแพคเกจบริการหลัง การขาย
ธนาคารยูโอบีสนับสนุนเงินทุนด้านค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์เพื่อติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการบำรุงรักษา สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจในวงเงินสูงสุดถึง 45 ล้านบาท และสำหรับประชาชนทั่วไป มอบสิทธิประโยชน์ในการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน