“ลุงตู่” เซ็นคำสั่งแต่งตั้งบอร์ดรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว
“ลุงตู่” เซ็นคำสั่งตั้งบอร์ดรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว โดยมอบให้ “กุลิศ” ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน พร้อมกรรมการจาก สศช. และ 3 กระทรวงหลัก “มหาดไทย-อุตสาหกรรม-ทรัพยากรธรรมชาติฯ” ร่วมนั่งด้วย เพื่อทำหน้าที่บริหารและพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางเพื่อให้การดำเนินการรับซื้อไฟฟ้า ให้เป็นไปตามกรอบที่ กพช. เห็นชอบไว้
ภายหลังจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ได้เห็นชอบหลักการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)
และราคารับซื้อไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเพื่อบริหารจัดการตลอดจนกำกับดูแลให้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เป็นสัญญาประเภท Non-Firm ที่สามารถใช้ระบบกักเก็บพลังงานร่วมด้วยได้ ห้ามใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลช่วยในการผลิตไฟฟ้า ยกเว้นช่วงเริ่มต้นเดินเครื่อง โดยในปี 2563 จะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) แบ่งออกเป็น 2 โครงการ คือ ประเภท Quick win เป็นโครงการที่ให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2563 ซึ่งเปิดโอกาสให้โรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างแล้วเสร็จหรือใกล้จะแล้วเสร็จ เข้ามาร่วมโครงการ และโครงการทั่วไป เปิดโอกาสให้ผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นการทั่วไป และอนุญาตให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2564 เป็นต้นไป ปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ใช้วิธีการคัดเลือกโดยกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าฯ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และคัดเลือกเรียงตามลำดับจากโครงการที่เสนอให้ผลประโยชน์คืนสู่ชุมชนสูงสุดไปสู่ผลประโยชน์ต่ำสุด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้การดำเนินการของ กพช. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาย เป็นไปตามกรอบนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตและใช้พลังงานตามศักยภาพในพื้นที่ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในด้านพลังงานได้
สำหรับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ประกอบด้วย มีหน้าที่ในการบริหารและพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตามกรอบนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางเพื่อให้การดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เป็นไปตามกรอบที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบไว้
ติดตาม เร่งรัดการดำเนินการของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้ดำเนินการได้ตามแผน พร้อมประเมินผลดำเนินงานซื้อ-ขายไฟฟ้า ของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก รายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมรับข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเป็นระยะตามความเหมาะสม
และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง รวมทั้งให้ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน เพื่อช่วยดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ในขอบเขตและหน้าที่และอำนาจตามความจำเป็น
สุดท้ายปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมอบหมาย
สำหรับคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่มีคำสั่งแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีนั้น มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีโรงงานอุตสาหกรรม เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน อัยการสูงสุด ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภา ผู้ทรงวุฒิที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ที่อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ เจ้าหน้าที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานมอบหมาย เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ