กำชับคุมเข้มสกัด “Covid-19” ในเส้นทางไปรษณีย์
“พุทธิพงษ์” กำชับ ปณท ขานรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เข้มมาตรการรับมือ Covid-19 ด้านการให้บริการลูกค้า มีเจลล้างมือบริการที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ด้านศูนย์ไปรษณีย์ ทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้น ด้านบุคลากร ให้ความรู้ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดลูกค้า ด้านอาคารสถานที่เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทุกครึ่งชั่วโมง พร้อมเผยแผนรับมือการระบาด โดยไปรษณีย์ไทยพร้อมจะทำหน้าที่ส่งสินค้าอุปโภค บริโภคให้กับผู้ใช้บริการถึงบ้าน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลกและมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วเกือบหนึ่งแสนคน ซึ่งประเทศไทยเองก็มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 43 คน เสียชีวิต 1 คน และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้เป็นภัยฉุกเฉินสากล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า กระทรวงดีอีเอส ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้เล็งเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทย และตระหนักถึงความสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จึงได้กำชับให้การปฏิบัติงานในทุกขั้นตอนของไปรษณีย์ไทย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าทั้งในและระหว่างประเทศมีมาตรการป้องกัน ติดตาม เฝ้าระวังอย่างรัดกุม เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยอย่างสูงสุด ตลอดจนเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่ช่วยประชาสัมพันธ์มาตรการและแนวทางป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสดังกล่าว และลดการระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งอาจปะปนมากับเส้นทางขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ โดยไปรษณีย์ไทย เดินหน้าให้บริการต่อเนื่องไม่มีวันหยุด
ด้าน นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเป็นหน่วยงานที่ให้บริการหลักในด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ที่มีเครือข่ายครอบคลุม เข้าถึงทุกครัวเรือนของไทย และเป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับคนไทยมาอย่างยาวนาน ขานรับนโยบายของรัฐบาลพร้อมออกมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการแก่ลูกค้าขั้นสูงสุด ดังนี้ ด้านการให้บริการลูกค้า จัดให้มีบริการเจลทำความสะอาดมือสำหรับผู้ใช้บริการทุกที่ทำการไปรษณีย์ ด้านที่ทำการไปรษณีย์ ยกระดับมาตรการด้านอาชีวอนามัย โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด ทุกครึ่งชั่วโมงของที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงร้านไปรษณีย์และเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดที่ให้บริการลูกค้า อาทิ มือจับประตู จุดกดบัตรคิว เก้าอี้ เคาน์เตอร์ให้บริการ
ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ ไปรษณีย์ไทยได้ให้ความรู้/ ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดลูกค้า มีมาตรการสั่งห้ามบุคลากรเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยง อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้น พร้อมแนะวิธีการป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าว ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือเป็นประจำขณะให้บริการหรือปฏิบัติหน้าที่ สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและหากตรวจพบให้รีบพบแพทย์ทันที รวมไปถึงการงดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เป็นต้น
ด้านศูนย์ไปรษณีย์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้นภายในศูนย์ไปรษณีย์ 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) และศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ ซึ่งถือเป็นศูนย์ไปรษณีย์หลักในการคัดแยกไปรษณียภัณฑ์ขาเข้าจากต่างประเทศของไปรษณีย์ไทยก่อนกระจายส่งพัสดุไปยังประชาชน
ด้านการกระจายเจลแอลกอฮอล์ ด้วยศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายรวมกว่า 10,000 แห่ง ได้ร่วมกับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เตรียมวางจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือในที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นในราคาที่เป็นธรรม
นายก่อกิจ กล่าวเพิ่มว่า อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ได้จัดเตรียมแผนการรับมือการระบาดสู่ระยะที่ 3 หากมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขยกระดับการแพร่ระบาดภายในประเทศที่ติดเชื้อในคนสู่คนจากการสัมผัสแบบใกล้ชิด ดังนี้ ด้านผู้ใช้บริการ เนื่องด้วยประชาชนจำเป็นต้องงดการออกจากเคหะสถาน ไปรษณีย์ไทยพร้อมทำหน้าที่ในการส่งสินค้าอุปโภค บริโภคให้กับผู้ใช้บริการถึงบ้าน ด้านที่ทำการไปรษณีย์ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการที่มีความเสี่ยงมาใช้บริการ จะทำการปิดที่ทำการไปรษณีย์เพื่อทำความสะอาด พ่น อบ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสก่อนแล้วจึงเปิดให้บริการอีกครั้ง และในส่วนของร้านไปรษณีย์ ได้กำกับให้รายงานเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือร้านไปรษณีย์ไทย และเครือข่ายไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ ปฏิบัติตามมาตรการเดียวกันกับ ไปรษณีย์ไทยที่ดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งไปรษณีย์ไทยมีแผนรองรับการจัดการงานที่คงค้าง ทั้งงานรับฝาก ส่งต่อ นำจ่าย ไม่ให้ล่าช้าหรือเสียหาย ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่ในที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ รวมถึงเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีความเสี่ยง มีมาตรการให้หยุดงานทันที และจะรายงานอาการของพนักงานโดยไม่มีการปกปิดด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมจะจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมมาปฏิบัติงานแทนเพื่อให้การทำงานไม่หยุดชะงัก
ทั้งนี้ การขนส่งสิ่งของไปยังปลายทางประเทศที่มีผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส Covid –19 คือ ปลายทางเมืองอู่ฮั่น และเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ปลายทางบางพื้นที่ในประเทศอิตาลี ขณะนี้ได้ปิดให้บริการรับฝากสิ่งของเป็นการชั่วคราว และการฝากส่งสิ่งของไปยังปลายทางประเทศมองโกเลีย รับฝากส่งด้วยบริการคูเรียร์โพสต์เท่านั้น
“ไปรษณีย์ไทย เผ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid –19 อย่างใกล้ชิด และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติ ในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งโลจิสติกส์เบอร์หนึ่งของไทย เพื่อสร้างความมั่นใจและร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย” นายก่อกิจ กล่าวสรุป